วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

บทนำจอมยุทธแห่งภูผา

            

           จอมยุทธแห่งผาเป็นนิยายจอมยุทธเรื่องแรกของ "ซิงชีเทียน" กำเนิดมาจากการที่ "จินฟง" (หนุ่มแรงบันดาลใจของผู้แต่ง) ที่ชอบเสาะแสวงหาถ้ำเป็นอย่างมาก หลายครั้งหลายคลาต้องผ่านอุปสรรคมากมายกว่าจะเดินทางไปถึงถ้ำเป้าหมาย กว่าจะได้พบรักกับแม่นาง "หมิงหยี " ก็กินเวลานานหลายปี แต่ด้วยความรัก ความกล้าหาญ อดทน ทำให้จินฟงผู้กล้าเอาชนะมารต่างๆไปได้

           "จินฟง" บุรุษหนุ่มรูปงาม(ในอดีต) แต่บัดนี้อายุย่างเข้าวัย 60 ปี ท่วงท่ายังองอาจ ทายาทผู้พิทักษ์แห่งภูเขาหลินอี๋ อันเลอค่า เพราะว่ากันว่าภูเขาแห่งนี้มีถ้ำอยู่มากมาย แต่ประตูถ้ำหามีไม่ นานหลายศตวรรษที่มีจอมยุทธและผู้กล้ามากมายที่หวังจะค้นพบปากทางเข้าถ้ำ แต่ก็หามีใครเจอไม่ แต่ถึงเจอก็ไม่สามารถทำลายทางเข้าถ้ำได้ เพราะเนื้อภูเขาแห่งนี้ดุจก้อนเพชรขนาดอหึมาที่แข็งแกร่งกว่าหินผา หรือเนื้อโลหะใดจะเจาะทะลุทะลวงเข้าไปได้ เหล่าจอมยุทธระดับปรมาจารย์มากมายจึงต้องแสวงหาเคล็ดลับวิชาและปริศนาแห่งภูผาเพื่อครอบครองและไขความลับแห่งผาอันยิ่งใหญ่ ในอดีตกาลมีเพียง"ปรมาจารย์อู๋ถัง"ที่เคยเดินทางฟันฝ่าผ่านด่านน้อยใหญ่เข้าไปได้เป็นผลสำเร็จ แต่ทว่าผู้กล้าคนแรกและคนเดียวที่เคยผ่านเข้าถ้ำภูผาศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้ มิอาจผ่านกลับมา หลงเหลือไว้เพียงบันทึกการเดินทางของศิษย์ผู้ติดตามบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้คนรุ่นหลังสืบเสาะแสวงหากันต่อไป          
         แต่สำหรับจินฟง "ถ้ำหลินอี๋"คือความงมงาย เวทมนต์แห่งแสงอัญมณีอันสูงค่าคือเรื่องเล่าของผู้ไม่มีอะไรจะทำ ถ้ำที่ทำให้ชีวิตของชายหนุ่มอย่างเขาจมปลักกับภูผา ไร้เพื่อนฝูง มีเพียงเสียงนกเป็นเสียงดนตรีขับกล่อม มีเพียงสัตว์ป่าเป็นเพื่อน มีบิดาเป็นอาจารย์ อาหารก็หาตามธรรมชาติเยี่ยงชาวป่าทั่วไป การค้นหาถ้ำหลินอี๋คือความใฝ่ฝันที่จะพิสูจน์ว่า เรื่องราวตามตำนานที่เล่าขานมานั้นล้วนหลอกลวง เขาใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตเพื่อค้นหา เพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังต้องหลั่งเลือดเพื่อมันอีก แต่มันยังว่างเปล่าไร้หนทาง ทิวเขายาวเจ็ดยอด ฤ ทางเข้าจะมิใช่ทางภูเขาหลินอี๋

        " ภูเขาหลินอี๋" ตำนานกล่าวว่า ประตูแห่งถ้ำหลินอี้หนาแข็งยิ่งกว่าภูผาทับกัน 7ชั้น เป็นเนื้อเพชรสีส้มสดก้อนมหึมา แก่นภูเขาคือถ้ำเพชรเลอค่าสีแดงฉานปานเลือดมังกร ลำธารใต้ถ้ำปูลาดด้วยเพชรสีฟ้าเข้มเหมือนสีของหัวใจมหาสมุทรที่ลึกที่สุด ทั่วบริเวณถ้ำล้วนเป็นเพชรสีมรกตและเพชรสีหยกเนื้อดี ที่งอกย้อยใหญ่เล็กปะปนกันมียอดเป็นเพชรสีชมพูอ่อนหวานและเข้มสลับกัน เปรียบประดุจทุ่งดอกไม้เพชรอันวิจิตรบรรจงที่ประเมินค่ามิได้ ผู้ใดที่ป่วยเข้าไปเพียงชั่วคืนก็จะฟื้นคืนพลังด้วยแสงแห่งพลังแร่ธาตุที่บริสุทธิ์และดีเยี่ยม สตรีหรือบุรุษใดที่ผิวพรรณโรยราก็สามารถทำให้ผิวที่เหี่ยวย่นคืนสภาพดุจผิวสตรีแรกรุ่นหรือผิวเด็กที่อ่อนเยาว์ได้เพียงอาบชโลมด้วยธารน้ำที่ปูลาดด้วยน้ำเพชรสีฟ้ามหาสมุทร และหากผู้ใดได้พลังแห่งเพชรสีเขียวมรกตก็จะทำให้บาดแผลและร่องรอยหายไปภายในเจ็ดคืน แต่หากได้สัมผัสกับแสงแห่งเพชรสีชมพูแล้วไซร้ จิตใจก็จะงดงาม ความแค้นจะบรรเทา ความโกรธจะหายไป เหลือไว้เพียงคุณธรรมและเมตตา แต่ที่เป็นอนิจังสิ่งใดให้ประโยชน์สูงสุดก็ล้วนมีผู้ละโมปปรารถนาจะครอบครอง ทำให้เป็นบ่อเกิดแห่งการแย่งชิง ประหัตประหาร เทพเจ้าแห่งภูเขาหลินอี๋จึงต้องแต่งตั้งเทพพิทักษ์ เพื่อห้ามมนุษย์ที่ไร้คุณธรรมและหวังเป็นใหญ่เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิแห่งนี้ หรือนำเพชรศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นสมบัติส่วนตน  และนี่คือที่มาของจอมยุทธแห่งภูเขาหลินอี๋ ผู้ถือกระบี่เพชรเป็นอาวุธ

     " เหม่ยหลง " มังกรแสนสวย จอมป่วนผู้โดดเดี่ยว มีธนูเป็นอาวุธ มีหัวใจเยือกเย็นดั่งภูเขาหิมาลัย มีวาจาคมกริบ และสายตาดุจเพลิงเผา แค้นต้องชำระ ไม่ชนะไม่ยอมตาย มีใบหน้ารูปไข่ กินกล้วยเป็นอาหารหลัก ถึงจะแพ้ก็จะสู้
"หากชีวิตไม่สิ้น หินผาไม่กลบหน้า ดวงวิญญาไม่ดับสูญ แค้นของข้าต้องเอาคืน"

                                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น